ศูนย์ซ่อม MacBook Pro ที่ดีที่สุด ใครที่มีอาการเสียรีบเข้ามา
หากพูดถึงเครื่อง MacBook ก็จะนึกถึงความเร็วการตอบสนองต่อผู้ใช้งาน ดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ แต่หากอยู่มาวันนึงเครื่อง MacBook ของเราเกิดอาการป่วย งอแงขึ้นมาหล่ะ จะให้ซ่อมให้เปลี่ยนก็คงจะแพงน่าดู
ก่อนที่เราจะส่งศูนย์ซ่อม MacBook นั้นเรามาดูฟังก์ชั่นประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิเตอร์ตระกูล Apple นี้ก่อนดีกว่า
MacBook Pro
มี 2 ขนาดคือ 13 , 15 นิ้ว
มีระบบ Touch Bar และ Touch ID ในตัว
มีให้เลือก 2 สี คือ สีเทา และ สีเทาสเปซเกรย์
จอภาพ Retina จอภาพแบ็คไลท์แบบ LED ขนาด 13.3 นิ้ว (แนวทแยง) พร้อมเทคโนโลยี IPS ความละเอียดปกติ 2560 x 1600 ที่ 227 พิกเซลต่อนิ้ว พร้อมรองรับการแสดงสีสันหลายล้านสีความละเอียดที่ปรับได้
1680 x 1050
1440 x 900
1024 x 640
ความสว่าง 500 นิต
1440 x 900
1024 x 640
ความสว่าง 500 นิต
ในด้านของโปรเซสเซอร์นั้น สำหรับในรุ่น 13 นิ้ว Touch Bar ได้แก่
Intel Core i5 แบบ Dual-core
ความเร็ว 3.1GHz ที่มี Turbo Boost
สูงสุด 3.5GHz พร้อม eDRAM ขนาด 64MB
สามารถปรับแต่งให้เป็น Intel Core i5
แบบ Dual-core ความเร็ว 3.3GHz ที่มี
Turbo Boost สูงสุด 3.7GHz พร้อม eDRAM
ขนาด 64MB หรือ Intel Core i7 แบบ Dual-core
ความเร็ว 3.5GHz ที่มี Turbo Boost สูงสุด
4.0GHz พร้อม eDRAM ขนาด 64MB ได้
Intel Core i5 แบบ Dual-core
ความเร็ว 3.1GHz ที่มี Turbo Boost
สูงสุด 3.5GHz พร้อม eDRAM ขนาด 64MB
สามารถปรับแต่งให้เป็น Intel Core i5
แบบ Dual-core ความเร็ว 3.3GHz ที่มี
Turbo Boost สูงสุด 3.7GHz พร้อม eDRAM
ขนาด 64MB หรือ Intel Core i7 แบบ Dual-core
ความเร็ว 3.5GHz ที่มี Turbo Boost สูงสุด
4.0GHz พร้อม eDRAM ขนาด 64MB ได้
พื้นที่เก็บข้อมูลมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 128 GB - 512 GB แบบ SSD ชนิด PCIe ออนบอร์ด ซึ่งทุกความจุสามารถอัพเกรดเป็นขนาดสูงสุดที่ 1TB ได้
หน่วยความจำ (RAM) เป็นแบบ LPDDR3 On Borad 2133MHz 8 GB ซึ่งก็สามารถอัพเพิ่มเป็น 16 GB ได้
กราฟิกแสดงผล Intel Iris Plus Graphics 640 และ Intel Iris Plus Graphics 650
พอร์ต และการชาร์จ พอร์ต Thunderbolt 3 (USB-C) จำนวน 4 พอร์ตที่รองรับ การชาร์จ DisplayPort Thunderbolt (สูงสุด 40 Gbps) USB 3.1 รุ่นที่ 2 (สูงสุด 10 Gbps)
คีย์บอร์ดแบ็คไลท์ขนาดมาตรฐานพร้อมปุ่ม 64 ปุ่ม (สหรัฐอเมริกา) หรือ 65 ปุ่ม (ISO) รวมทั้งปุ่มลูกศร 4 ปุ่ม ระบบ Touch Bar พร้อมเซ็นเซอร์ Touch ID ในตัว มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ แทร็คแพด Force Touch เพื่อการควบคุมเคอร์เซอร์ที่แม่นยำและความสามารถในการรับรู้แรงกดที่จะช่วยให้สามารถใช้การคลิ๊กลงน้ำหนัก การเร่งความเร็วตามแรงกด การวาดนิ้วที่ไวต่อแรงกด และคำสั่งนิ้ว Multi-Touch ได้เป็นอย่างดี
มีระบบ Wi-Fi 802.11ac รองรับ IEEE 802.11a/b/g/n มีระบบ Bluetooth 4.2 ในตัว
จอภาพความละเอียด 5120 x 2880 ที่ 60Hz ได้อีก 1 จอ โดยแสดงสีสันนับพันล้านสี
จอภาพความละเอียด 4096 x 2304 ที่ 60Hz ได้สูงสุดอีก 2 จอ โดยแสดงสีสันนับล้านสี
จอภาพความละเอียด 3840 x 2160 ที่ 60Hz ได้สูงสุดอีก 2 จอ โดยแสดงสีสันนับพันล้านสี
การส่งสัญญาณภาพดิจิตอลผ่าน Thunderbolt 3 ส่งสัญญาณผ่าน DisplayPort ในตัวด้วย USB-C รองรับการส่งสัญญาณภาพผ่าน VGA, HDMI และ Thunderbolt 2 โดยใช้อะแดปเตอร์(จำหน่ายแยกต่างหาก)
เรื่องระบบเสียงนั้น MacBook Pro เองก็ทำออกมารองรับประสบการณ์ในการฟังได้อย่างถึงที่สุด ลำโพงสเตอริโอพร้อมช่วงไดนามิกสูง ไมโครโฟน 3 ตัว ช่องต่อหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรีที่สำคัญมากสำหรับการใช้งาน โดยไม่ต้องเสียบปลั๊กนานต่อเนื่องสูงสุด 10 ชั่วโมง และสามารถแสตนด์บายได้สูงสุดถึง 30 วัน ตัวแบตเป็นลิเธียมพอลิเมอร์ 49.2 วัตต์ต่อชั่วโมง USB-C Power Adapter 61 วัตต์
ระบบปฏิบัติการ macOS High Sierra
ขนาดและน้ำหนัก MacBook Proความสูง: 1.49 ซม
ความกว้าง: 30.41 ซม
น้ำหนัก: 1.37 กก.
ด้วยประสิทธิภาพที่เมื่อเทียบเท่ากับราคาที่ต้องจ่ายไปก็นับว่าคุ้มค่ามากครับ แต่หากจะมีข้อเสียอะไรแล้วหล่ะก็ คาดว่าจะเป็นเรื่องของอาการเสียจากอายุการใช้งานนั่นเอง ซึ่งอย่างที่กบ่าวไปในตอนต้นว่าหากเข้าศูนย์นั้นค่อนข้างจะแพง และใช้เวลาซ่อมนาน การหันมามองทางเลือกตามร้านศูนย์ซ่อม MacBook ที่มีอยู่ทั่วไปนั้นก็สามารถทำได้ แต่เราต้องดูร้านให้ดีก่อนนะว่ามีความน่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน สำหรับศูนย์ซ่อม ที่ผ่านมาตรฐานการรับรองนั้นเราสังเกตุได้จากเครื่องหมาย Apple Authorized Service Provider (AASP) รับรองในประเทศไทยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น